จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

SUPERSTAR BURIRRAM UNITED



เกมส์นัดถัดไป ครับ..






ฮีโร่เซราะกราวรับฝันเป็นจริงซัดกิเลนพาทีมชิงเอฟเอหวังอยู่ยาว

ฮีโร่เซราะกราวรับฝันเป็นจริงซัดกิเลนพาทีมชิงเอฟเอหวังอยู่ยาว

เรดอนโด้ ฮีโร่เซราะกราวผู้ทำประตูชัยเหนือเมืองทองยอมรับว่าฝันเป็นจริงที่ได้ยิงประตูสำคัญในแมตช์ใหญ่พร้อมคาดหวังได้เป็นตัวเลือกของทีมต่อปีหน้า
มานูเอล เรดอนโด้ การ์เซีย กองกลางชาวสเปนของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าตนเองมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถยิงประตูสำคัญพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2013 ได้สำเร็จ จากการเฉือนชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่ปรับสำคัญ 1-0 ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ดาวเตะสารพัดประโยชน์วัย 28 ปี มีโอกาสได้ลงเล่นให้เซราะกราวเพียงแค่ฟุตบอลถ้วยเท่านั้นเพราะเขาย้ายเข้ามาร่วมทีมในช่วงตลาดนักเตะรอบสองภายหลังทีมได้ผู้เล่นโควต้าต่างชาติเต็มแล้วอย่างไรก็ตามเขากลายเป็นกำลังสำคัญเมื่อทีมต้องขาดทั้ง คาร์เมโล กอนซาเลซ และ ฆาเบียร์ ปาตินโญ สองเพื่อนร่วมชาติ

อดีตผู้เล่น เฆเรซ ให้สัมภาษณ์หลังยิงประตูชัยให้บุรีรัมย์ในช่วงต้นครึ่งเวลาหลังว่า "ผมมีความสุขที่สุดจริงๆ ที่สามารถยิงประตูได้ และพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ผมชอบฝันว่าต้องการยิงประตูทีมใหญ่ๆ อย่างเมืองทอง ในแมตช์ใหญ่แบบนี้ มันเป็นการสร้างแรงจูงใจ วันนี้ทีมของพวกเราเล่นได้ดีจริงๆ แม้ว่าครึ่งแรก มันจะยังไม่ลงตัว"

นอกจากนี้ เรดอนโด ยังได้กล่าวถึงชีวิตการค้าแข้งในประเทศไทยว่า " ผมมีความสุขกับสโมสรแห่งนี้ และผมต้องการอยู่ที่นี่ต่อไปในฤดูกาลหน้าเพื่อเป็นตัวเลือกในลีก"
ภาพ : Almon foto

MATCH REPORT

FA cup : บุรีรัมย์ 1-0 เมืองทอง : เซราะกราวชิง3ปีติด


FA cup : บุรีรัมย์ 1-0 เมืองทอง : เซราะกราวชิง3ปีติด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1–0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

มานูเอล เรดอนโด้ การ์เซีย น.46

ศึกการแข่งขันฟุตบอล มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นการพบกันระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

เข้าสู่ครึ่งแรก เกมดำเนินได้เพียงแค่ 2 นาที “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าของทีม ได้หลุดเข้ามายิงในเขตโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดออกไปได้ทัน

อีก 5 นาทีต่อมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสตอบโต้บ้าง จากจังหวะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้พักบอลในเขตโทษ ก่อนยิงวอลเลย์ด้วยขวา แต่บอลลอยข้ามคานออกไป

จากนั้นทั้งสองทีม ผลัดกันเปิดเกมบุกแลกเข้าใส่กัน ใน น.11 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ผู้เล่น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้โอกาสแปรบอลยัดเสาสอง แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กระโดดปัดได้อย่างหวุดหวิด

น.21 มาริโอ ยูรอฟสกี้ กองกลางตัวเก่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้โอกาสยิงจ่อๆในเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้น

อีก 6 นาทีต่อมา ปิยพล บรรเทา ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบอลจากด้านขวา แต่ เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า ยิงบอลข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ

น.34 ธีรศิลป์ แดงดา ถูก ชิติพัทธ์ แทนกลาง กองหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสียบล้มหน้ากรอบเขตโทษ แต่ ลี มิน ฮู ผู้ตัดสินชาวเกาหลีใต้ กลับควักใบแดงให้เจ้าตัว ท่ามกลางความงงของแฟนบอลทั้งสนาม ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเปลี่ยนใจให้เป็นใบเหลืองแทน ส่วนช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก ทั้งสองทีม เสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง เกมดำเนินได้เพียงแค่นาทีเดียว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากการยิงซ้ำจ่อๆเข้าไปไม่พลาดของ มานูเอล เรดอนโด้ การ์เซีย

จากนั้น ทั้งสองทีมต่างฝ่ายบุกเข้าใส่กัน และใน น.71 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูออกนำอีกครั้ง จากความผิดพลาดของแนวรับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเป็น ไค ฮิราโนะ ที่ฉกแย่งบอลมาได้ ก่อนได้ยิงด้วยขวา บอลเฉียดตาข่ายออกไปนิดเดียว

อย่างไรก็ตาม น.84 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ วิษณุศักดิ์ แก้วเรือง ผู้รักษาประตู เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เสียบสกัด เอกชัย สำเร หน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชูใบแดง ไล่ออกจากสนามทันที

และในช่วงท้ายเกม น.87 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูตีเสมอ จากลูกยิงของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ จ่อๆในเขตโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โชว์ลีลาซุปเปอร์เซฟ ปัดออกไปได้อย่างสวยงาม

จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้แบบสุดมัน 1-0 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่โชว์ฟอร์มโหด ด้วยการถล่ม อินทรีเพื่อนตำรวจ ไปแบบขาดลอย 5-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ( GK ) , ธีราทร บุญมาทัน , ประทุม ชูทอง , ออสมาร์ อิบันเญซ , สุเชาว์ นุชนุ่ม , จักรพันธ์ แก้วพรม , จิรวัฒน์ มัครมย์ , ชิติพัทธ์ แทนกลาง , ไค ฮิราโนะ , สุรีย์ สุขะ , มานูเอล เรดอนโด้ การ์เซีย

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด – วิศณุศักดิ์ แก้วเรือง ( GK ) , ภาณุพงศ์ วงศ์ษา , ดัสกร ทองเหลา , ธีรศิลป์ แดงดา , มาริโอ ยูรอฟสกี้ , ดักโน่ เซียก้า , ปิยพล บรรเทา , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า , วีระวุฒิ กาเหย็ม , คิม ยู จิน

เนวินตอกย้ำนิยามเมืองทองจะอยู่คู่ฟุตบอลไทยอีกนาน

เนวินตอกย้ำนิยามเมืองทองจะอยู่คู่ฟุตบอลไทยอีกนาน

เนวิน ชิดชอบ โวลั่นนิยาม "แพ้ใครแพ้ได้แต่ไม่แพ้เมืองทอง" จะอยู่คู่วงการฟุตบอลไทยต่อไป ชี้เกมตัดสิน 90 นาทีแม้ครึ่งแรกเป็นรอง
เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวตอกย้ำประโยคแพ้ใครแพ้ได้แต่ไม่แพ้เมืองทองอีกครั้งหลังจากย้ำแค้นเอาชนะทีมคู่ปรับ 1-0 ในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามม.ธรรมศาสตร์รังสิตเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา

เซราะกราวยังคงยืดสถิติไม่แพ้กิเลนผยองเป็นเกมที่ 11 ติดต่อกันหลังได้ประตูโทนจาก มานูเอล เรดอนโด กองกลางชาวสเปนในช่วงต้นครึ่งหลังทำให้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยน็อคเอ้าท์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะไปพบกับบางกอกกล๊าส วันที่ 10 พ.ย.นี้

ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า "คำว่าแพ้ใครแพ้ได้แต่ไม่แพ้เมืองทองจะอยู่คู่วงการฟุตบอลไทยต่อไปอีกนาน วันนี้ต้องชื่นชมนักเตะที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี และขอบคุณแฟนบอลบุรีรัมย์ที่อยู่เคียงข้างเรา" 

“แม้ว่าเกมครึ่งแรกเราจะไม่ดีแต่ฟุตบอลมันวัดกันที่ 90 นาทีและบุรีรัมย์เป็นชนะ ผมยืนยันว่าบุรีรัมย์จะเดินหน้าเพื่อคว้า 3 ถ้วยมาครองให้ได้อีกครั้งในปีนี้"

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556


เอฟเฟค4ถ้วย!เมเนนเดซรับสภาพเซราะกราวกรอบท้ายซีซั่น

เอฟเฟค4ถ้วย!เมเนนเดซรับสภาพเซราะกราวกรอบท้ายซีซั่น

กุนซือเซราะกราวยอมรับว่ากำลังประสบปัญหาเรื่องสภาพร่างกายนักเตะช่วงโค้งสุดท้ายหลังกรำศึกหนักมาตลอด บ่นเสียดายชวด 3 คะแนนเพื่อทิ้งห่างกิเลน
อเลฆันโดร เมเนนเดซ หัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเซราะกราวกำลังเจอกับปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บในช่วงท้ายฤดูกาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะการกรำศึกอย่างหนักทั้ง4รายการโดยล่าสุด คาร์เมโล กอนซาเลซ เจ็บซ้ำก่อนเกมที่บุกไปเสมอ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 0-0 ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

บุรีรัมย์ใส่ชื่อ คาร์เมโล ซึ่งยิงไปแล้ว 21 ประตูออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้แต่กองกลางชาวสเปนโชคร้ายเจ็บเพิ่มระหว่างอบอุ่นร่างกายจนต้องเปลี่ยนเอา สุริยา ดอมไธสง ลงเล่นแทน นอกจากนี้ ชาริล ชัปปุยส์ ก็มีอาการบาดเจ็บระหว่างเกมการแข่งขัน ขณะที่ ฆาเบียร์ ปาตินโญ พักยาวไปแล้ว

“มันเป็นธรรมดาเมื่อเรามีโปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างเยอะกว่าทีมอื่นทำให้นักเตะแทบไม่ได้พัก แล้วตอนนี้สภาพร่างกายของผู้เล่นก็กรอบกันไปหมด มันก็เป็นปัญหาของเราจริงๆ แต่ผมยังเชื่อว่าขนาดทีมของเราใหญ่พอที่จะทดแทนกันได้" 

อดีตกุนซือราซิ่ง ซานตานเดร์ กล่าวถึงเกมที่ทีมบุกไปเก็บแค่ 1แต้มในถิ่นกองทัพบกทำให้พลาดทิ้งห่างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกไปเป็น 7 แต้มโดยยังคงช่องว่าง 5 คะแนนเท่าเดิมว่า "เกมนี้สภาพสนามแย่มาก เราพยายามปรับตัวกับการเล่นในสนามแบบนี้แล้ว และผมคิดว่าทุกคนทำได้ดี อาร์มี่แทบไม่มีโอกาสยิงประตูเรา แต่เรามีโอกาสมากซึ่งปัญหาคือเราทำไม่ได้เอง"

“แน่นอนว่าผมเสียดาย 3 แต้มในเกมนี้แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่แล้วนั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นมากกว่า"

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ตารางคะเเนนล่าสุด ครับ++-**/--+



เมเนนเดซยันบุรีรัมย์เหนือกว่าอิสติกลอลแม้ตกรอบ

เมเนนเดซยันบุรีรัมย์เหนือกว่าอิสติกลอลแม้ตกรอบ

กุนซือชาวสเปนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่าลูกทีมของเขาดีกว่าอิสติกลอลและสมควรเป็นผู้ชนะแต่ยอมรับว่าประสบการณ์ในระดับเอเชียยังไม่มากพอ
อเลฆันโดร เมเนนเดซ เฮดโค้ชชาวสเปนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าลูกทีมของเขาสมควรที่เป็นฝ่ายเข้ารอบรองชนะเลิศเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะตลอดทั้งเกมสามารถทำได้ดีกว่า อิสติกลอล อย่างไรเขายอมรับว่าเรื่องประสบการณ์ในระดับเอเชียทำให้ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

ขุนพลเซราะกราวออกสตาร์ทได้ดีในเกมนี้เมื่อ ออสมาร์ อิบันเญซ โหม่งให้ทีมขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ช่วงครึ่งหลังมาพลาดโดนทีมเยือนจากอิหร่านตีเสมอจาก ฮานิฟ อัมรอนซอดิห์ ทำให้เสียเปรียบเรื่องอเวย์โกลทันที ก่อนที่ อันดรานิค ตีย์มูริยัน จะมายิงไกลสุดสวยให้ทีมดังแห่งเตหะรานดับฝันการเข้าไปสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายของตัวแทนจากประเทศไทย

"ครึ่งแรกบุรีรัมย์เล่นได้ดีมาก ทั้งเกมรับ-เกมรุกเราเหนือกว่า และยังได้ประตูด้วย" เมเนนเดซ กล่าว "แต่ครึ่งหลังเราเสียประตูเร็วไปหน่อยทำให้ลูกทีมเสียสมาธิไป อีกทั้งตำแหน่งการยืนยังไม่ดี รวมถึงใจที่ดูเหมือนยังไม่สู้พอ บุรีรัมย์เล่นดีกว่าแต่ประสบการณ์ยังสู้ไม่ได้ จังหวะจบยังไม่นิ่งพอ"

“ผมขอแสดงความยินดีกับอิสติกลอล แต่ผมยืนยันว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่า เราสมควรต้องเป็นฝ่ายเข้ารอบแต่ปัญหาก็คือประสบการณ์ในระดับเอเชียทำให้อิสติกลอลรู้ว่าต้องจัดการอย่างไรกับเกมของเรา" อดีตเทรนเนอร์เรอัล มาดริด กาสตีญา ทิ้งท้าย
ภาพ : Buriram United

เนวินลั่นเซราะกราวจะไปไกลกว่า8ทีมเอซีแอลปีหน้า

ภาพ : Buriram United
เนวิน ชิดชอบ ประกาศจะพาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาแก้มือในเอซีแอลปีหน้าไม่พอแต่จะต้องไปไกลกว่ารอบ 8 ทีมด้วยเชื่อนักเตะไทยพิสูจน์ฝีเท้าในเอเชียแล้ว
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้คำมั่นกับสาวกธันเดอร์คาสเซิลล่วงหน้าว่าทีมจะกลับไปแก้มือในเวทีฟุตบอลถ้วยใบใหญ่ของเอเชียปีหน้าและจะทำผลงานได้ดีกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างแน่นอนหลังพึ่งอกหักพ่ายแพ้ค้าบ้านให้กับ อิสติกลอล 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

เซราะกราวต้องหยุดเส้นทางของตัวเองในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ไว้เพียงรอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้นหลังการพ่ายแพ้ในบ้านนัดแรกของฤดูกาลทำให้ตกรอบด้วยสกอร์รวม 3-1 อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นทีมแรกในรอบ 10 ปีของไทยที่ก้าวมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายรายการนี้

นายใหญ่แห่งไอโมบาย สเตเดี้ยม กล่าวว่า “ต้องขอโทษแฟนบอลบุรีรัมย์และแฟนบอลชาวไทยที่เราไม่สามารถเข้าไปเล่นรอบ 4 ทีมได้ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ภาพรวมถือว่าผู้เล่นทุกคนเต็มที่และทำได้ดี"

"ปีหน้าในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เราต้องไปไกลกว่านี้ ผมจะทำให้บุรีรัมย์ดีกว่านี้อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้เด็กไทย 10 คนในเวทีแชมป์เปี้ยนส์ลีกสามารถทำผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคนครับ"
ออสมาร์มองแง่ดีแม้เซราะกราวร่วงเอซีแอล

ออสมาร์มองแง่ดีแม้เซราะกราวร่วงเอซีแอล

ออสมาร์ อิบันเญซ มองโลกแง่ดีว่าการตกรอบเอซีแอลช่วยให้ทีมสามารถมุ่งสมาธิไปที่การกวาดแชมป์ในประเทศได้ง่ายขึ้น รับเสียใจที่แพ้แต่ภูมิใจที่บุรีรัมย์สู้ได้ดี
ออสมาร์ อิบันเญซ ปราการหลังจอมแกร่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรหัวแถวของประเทศไทย เปิดเผยว่าเขาอยากให้เพื่อนร่วมทีมนำความผิดหวังที่ร่วงเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายจากการแพ้ให้กับ อิสติกลอล ทีมยักษ์ใหญ่จากอิหร่านด้วยสกอร์รวม 3-1 มาเป็นแรงกระตุ้นในการล่าแชมป์ในประเทศ 3 รายการที่เหลืออยู่ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก ,เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ มาครองให้ได้

เซราะกราวต้องหยุดเส้นทางในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียไว้เพียงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ หลังพึ่งเปิดบ้านโดนทีมดังแห่งเตหะรานบุกมาย้ำแค้น 2-1 และเป็นการพ่ายแพ้คาบ้านนัดแรกของฤดูกาลนี้ด้วย

อดีตแนวรับราซิ่ง ซานตานเดร์ ซึ่งโหม่งพังประตูขึ้นนำให้กับทีมในเกมนี้แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้กล่าวว่า "เราทุกคนรู้สึกเสียใจที่ทีมแพ้ แต่ผมอยากบอกว่าเราเล่นกันได้ดีแล้ว ผมรู้สึกภูมิใจที่ทุกคนต่างทำหน้าที่อย่างเต็มที่แม้จะตกรอบ" 

“บางทีการตกรอบครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องดีเพราะเราจะได้มีสมาธิไปกับการคว้าแชมป์ลีกในประเทศรวมทั้งบอลถ้วยอีก 2 รายการซึ่งมีโอกาสทำได้อยู่ เราต้องลืมความผิดหวังและกลับมาให้ได้" 

นอกจากนี้ ออสมาร์ ยังยอมรับว่าเขาสนใจที่จะขยับขึ้นมาเล่นสูงกว่าตำแหน่งเซนเตอร์ฮาร์ฟหลังมีบทบาทมากในเกมรุกของทีมช่วงหลัง "สำหรับผมตำแหน่งกองกลางก็น่าสนใจดีนะผมอยากลองเล่นดูถ้ามีโอกาส"